คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกลไกการคัดกรองระดับชาติ (NSM)

National Screening Mechanism หรือ NSM คือ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 หรือ ระเบียบคัดกรองคนต่างด้าว

รัฐบาลไทยใช้ระเบียบนี้เพื่อคัดกรองบุคคลที่ “ไม่สามารถ หรือ ไม่เต็มใจที่จะเดินทางกลับประเทศต้นทาง เนื่องจากมีเหตุอันเชื่อได้ว่า บุคคลนั้นอาจได้รับอันตรายจากการถูกประหัตประหาร”

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเริ่มรับคำร้องขอรับสิทธิในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 การประเมินจะทำผ่านการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งอาจมีการสัมภาษณ์มากกว่าหนึ่งครั้งโดยผู้ยื่นคำร้องต้องเล่าประวัติส่วนตัว อธิบายว่าเหตุใดจึงเดินทางออกจากประเทศต้นทาง และเหตุใดจึงไม่สามารถกลับไปได้

หากคำขอรับสิทธิผ่านการพิจารณา รัฐบาลไทยจะให้สถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” แก่คุณ และเลื่อนการส่งตัวกลับประเทศออกไป เนื่องจากอันตรายที่อาจต้องเผชิญในประเทศของคุณ

หากคำขอรับสิทธิของคุณไม่ผ่านการพิจารณา พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองจะถูกนำมาใช้กับเคสของคุณ และมีความเป็นไปได้ที่คุณอาจถูกผลักดันออกจากประเทศไทยตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ทั้งนี้ NSM เป็นกระบวนการภายใต้กฎหมาย ซึ่งหากผู้ยื่นคำร้องได้ผ่านกระบวนการทางอาญาในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีคำสั่งให้ส่งกลับออกนอกประเทศแล้ว ผู้ยื่นคำร้องสามารถโต้แย้งคำสั่งส่งกลับนั้นได้โดยให้เหตุผลว่าอาจต้องเผชิญอันตรายหากถูกส่งกลับ หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าหากคุณยังไม่เคยถูกดำเนินคดีข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือข้อหาเกี่ยวกับการอยู่ในประเทศโดยผิดกฎหมายและได้รับโทษทางอาญาแล้ว คุณจะไม่มีสิทธิที่จะยื่นขอสถานะภายใต้ NSM

กระบวนการนี้ไม่ใช่ระบบการให้สถานะผู้ลี้ภัยของไทย ไม่มีการออกวีซ่าลี้ภัยให้แก่ผู้ยื่นคำร้อง และไม่ใช่เส้นทางสู่การได้สัญชาติ หรือถิ่นที่อยู่ถาวรในประเทศไทย

กระบวนการ NSM ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขอลี้ภัยของ UNHCR โดยรัฐบาลไทยมีอำนาจในการตัดสินใจที่จะให้สถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” แต่เพียงผู้เดียว

กระบวนการ NSM เป็นกลไกที่รัฐบาลไทยใช้ เพื่อคัดกรองบุคคลที่มาประเทศไทยและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ เนื่องจากมีเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่า บุคคลนั้นอาจประสบอันตรายจากการถูกประหัตประหารหากถูกส่งตัวออกจากประเทศไทย

หากคำขอผ่านการพิจารณา ผู้ยื่นคำร้องจะได้รับสถานะ “ผู้ที่ได้รับการคุ้มครอง” ซึ่งไม่เทียบเท่ากับสถานะผู้ลี้ภัยตามความหมายของ UNHCR

ภายใต้ข้อ 15 ของระเบียบคัดกรองคนต่างด้าว กล่าวว่า “หากพนักงานเจ้าหน้าที่พบคนต่างด้าวที่อ้างตนว่ามีเหตุสมควรจะเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง ให้ชะลอการส่งตัวคนต่างด้าวนั้นออกไปนอกราชอาณาจักร เว้นแต่มีเหตุที่จะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ”

ถ้าคุณถูกจับกุมและเชื่อว่าจะตกอยู่ในอันตรายหากต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง คุณสามารถยื่นคำร้องตามระเบียบคัดกรองคนต่างด้าวได้ เพื่อให้รัฐบาลไทยพิจารณาไม่ส่งตัวกลับประเทศต้นทาง หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่มีเวลา 30 วันในการพิจารณาเคสของคุณว่าคุณมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับสิทธิภายใต้กระบวนการ NSM หรือไม่ อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายหรืออยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายก่อนที่จะมีสิทธิยื่นขอตาม NSM หลังจากถูกจับกุมและได้รับโทษทางอาญาแล้ว คุณอาจถูกควบคุมตัวไว้ที่สถานกักตัวคนต่างด้าวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ตามระเบียบนี้ บุคคลที่ได้รับสถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” ภายใต้ระเบียบคัดกรองคนต่างด้าว จะได้รับบัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาลไทยและได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยชั่วคราวเป็นเวลา 5 ปี สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาล และการศึกษาได้

ในปัจจุบัน (มิถุนายน พ.ศ. 2567) สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำลังประสานงานกับทางกระทรวงสาธารณสุข ให้ผู้ได้รับการคุ้มครองสามารถซื้อประกันสุขภาพได้ในราคาต่ำ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้แก้ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว

การอนุญาตให้อยู่ได้ชั่วคราวนี้มีอายุ 5 ปี และสามารถต่ออายุได้ แต่จะได้รับการต่ออายุหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ยื่นคำร้องสามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางอย่างปลอดภัยได้หรือไม่ หรือมีประเด็นเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศหรือไม่ หรือหากเหตุประหัตประหารได้หมดไปแล้ว ผู้ยื่นคำร้องก็จะต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง

ไม่ คุณไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ UNHCR อย่างไรก็ตาม การได้รับการรับรองสถานะผู้ลี้ภัยจาก UNHCR อาจเป็นประโยชน์สำหรับการพิจารณาในกระบวนการ NSM

การยื่นคำร้องในกระบวนการ NSM คุณต้องพิสูจน์ให้เจ้าหน้าที่เห็นว่า ความหวาดกลัวว่าจะถูกประหัตประหารในประเทศบ้านเกิดของคุณนั้น มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ และยังคงเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งทำให้คุณไม่สามารถเดินทางกลับประเทศของคุณได้

หากคุณไม่ผ่านการพิจารณา คุณจะถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายคนเข้าเมืองของราชอาณาจักรไทย ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่จะถูกส่งกลับประเทศต้นทาง หรือไม่เช่นนั้นก็จะต้องเดินทางออกนอกประเทศไทยไปโดยสมัครใจหากสามารถทำได้

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2566 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคัดกรองผู้ยื่นคำร้องได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยสรุป ผู้ยื่นคำร้องจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้:

1. เข้ามาหรืออยู่ในประเทศไทย และไม่สามารถหรือไม่สมัครใจที่จะเดินทางกลับไปยังประเทศต้นทาง เนื่องจากมีเหตุผลอันสมควรความเชื่อได้ว่า จะตกอยู่ในอันตรายจากการประหัตประหาร
2. ไม่เป็นคนต่างด้าวที่กระทรวงมหาดไทยมีมติกำหนดมาตรการหรือกระบวนการดำเนินการรองรับเป็นการเฉพาะ เช่น ผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาในพื้นที่พักพิงชั่วคราวทั้ง 9 แห่งตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา
3. ไม่เป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว กัมพูชา หรือเวียดนาม ซึ่งอยู่ภายใต้ มาตรการหรือขั้นตอนเฉพาะตามที่คณะรัฐมนตรีได้กำหนดไว้

ในกระบวนการยื่นคำขอตาม NSM จะมีการตรวจสอบหมายจับและประวัติอาชญากรรม และการตรวจสอบพฤติการณ์บุคคล การเมือง และความมั่นคงของชาติ ในกระบวนการนี้คุณจะต้องพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อให้กับรัฐบาลไทยด้วย

หากการให้สถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” อาจเป็นเหตุที่จะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ก็อาจจะไม่มีการให้สถานะดังกล่าว

ตามระเบียบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การยื่นคำร้องภายใต้กระบวนการ NSM สามารถทำได้ก็ต่อเมื่อผู้ยื่นคำร้องถูกดำเนินคดีข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายคนเข้าเมืองของประเทศไทยแล้วเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่มีสถานะเข้าเมืองผิดกฎหมายเท่านั้น (เช่น ไม่มีวีซ่าที่ให้สิทธิอยู่ในประเทศไทย) จึงจะสามารถยื่นขอสถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” ภายใต้ระเบียบคัดกรองคนต่างด้าวได้ ซึ่งหมายความว่า คุณไม่สามารถยื่นคำร้องได้หากมีวีซ่าที่ถูกต้อง หรือมีใบอนุญาตให้พำนักในประเทศประเภทอื่น เช่น บัตรแรงงานข้ามชาติ

หากคุณอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายแต่ไม่เคยถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาคนเข้าเมือง คุณจะต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายว่ามีสถานะเข้าเมืองผิดกฎหมายก่อน จึงจะสามารถยื่นคำร้องตามกระบวนการ NSM ได้

กระบวนการทางกฎหมายจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อถูกจับกุมหรือยอมมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ และโดยทั่วไปคุณจะถูกตั้งข้อหาตามกฎหมายคนเข้าเมือง และถูกนำตัวขึ้นศาล หลังจากรับโทษทางอาญาแล้ว คนต่างด้าวส่วนใหญ่จะถูกส่งไปที่สถานกักตัวคนต่างด้าว

คุณสามารถยื่นคำร้องตามกระบวนการ NSM ได้เมื่ออยู่ในสถานกักตัวคนต่างด้าว หรือหลังจากที่ได้รับการประกันตัวจากสถานกักตัวคนต่างด้าว (Immigration Detention Center – IDC) แล้ว ในการยื่นขอประกันตัวโดยทั่วไป คุณจะต้องมีนายประกันคนไทย และวางเงินประกันตามจำนวนที่กำหนด

คุณอาจยื่นขอประกันตัวได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องยื่นขอสถานะภายใต้ NSM หากคุณเป็นผู้ลี้ภัยหรือผู้แสวงหาที่ลี้ภัยที่มีเคสเปิดอยู่กับ UNHCR (เช่น มีบัตร UNHCR ที่ยังไม่หมดอายุ) คุณสามารถขอประกันตัวได้ภายใต้เงื่อนไขว่ากำลังขอลี้ภัยกับ UNHCR โดย IDC จะติดต่อ UNHCR เพื่อยืนยันว่าคุณเป็นผู้ลี้ภัยหรือผู้ขอลี้ภัย ในกรณีนี้คุณต้องมีนายประกันคนไทยและต้องวางเงิน 50,000 บาทแก่ IDC เพื่อเป็นเงินประกันตัว และจะต้องติดต่อ IDC ทุก ๆ 15 วันเพื่อรายงานตัวหลังได้รับการปล่อยตัวแล้ว

ซึ่งหมายความว่า หากคุณได้ยื่นขอลี้ภัยกับ UNHCR แล้ว และถูกส่งตัวไปยัง IDC หลังจากถูกจับกุม คุณสามารถขอประกันตัวได้ทันที

คุณอาจยื่นขอประกันตัวได้หากคุณยื่นขอสถานะภายใต้ NSM หากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้สิทธิในการยื่นคำร้องแก่คุณ และคุณกำลัง (1) อยู่ในขั้นตอนการคัดกรอง หรือ (2) คุณได้รับสถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” แล้ว คุณสามารถขอประกันตัวโดยระบุว่ากำลังขอรับความคุ้มครองภายใต้ระเบียบคัดกรองคนต่างด้าว ในกรณีนี้คุณต้องมีนายประกันคนไทย และวางเงิน 20,000 บาทให้กับ IDC เพื่อเป็นเงินประกันตัว และจะต้องติดต่อ IDC ทุก ๆ 45 วัน เพื่อรายงานตัวหลังได้รับการปล่อยตัวแล้ว

คุณไม่จำเป็นที่จะต้องมีเคสที่เปิดอยู่กับ UNHCR หากคุณต้องการยื่นขอประกันตัวโดยใช้เหตุผลว่าคุณกำลังยื่นขอรับความคุ้มครองภายใต้ NSM ดังนั้น ภายใต้ NSM หากต้องการขอประกันตัว คุณต้องยื่นคำร้องขอรับสิทธิเป็น “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” ก่อน เมื่อพิจารณาแล้วว่าคุณมีสิทธิยื่นคำขอ คุณจะต้องยื่นแบบคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง หลังจากนั้นในขณะที่คุณอยู่ระหว่างการคัดกรอง คุณสามารถขอประกันตัวได้

หากคุณยื่นขอประกันด้วยโดยใช้เหตุผลว่าเป็นผู้ลี้ภัย เป็นผู้ขอลี้ภัย หรืออยู่ระหว่างการยื่นคำขอภายใต้ NSM และคุณอายุต่ำกว่า 18 ปี คุณสามารถยื่นขอประกันตัวได้โดยจำเป็นต้องมีนายประกันคนไทยแต่ไม่ต้องวางเงินประกัน และอาจจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้ชั่วคราวตามกฎหมายคนเข้าเมือง แม้ว่าจะอายุครบ 18 ปีแล้วก็ตาม เด็กที่ถูกปล่อยออกจาก IDC จะต้องไปรายงานตัวที่ IDC ทุก ๆ 45 วัน

ทั้งนี้ การตัดสินใจว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่เป็นดุลยพินิจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

หากคุณอยู่ในระหว่างการประกันตัวด้วยเหตุผลอื่นนอกจากการอยู่ระหว่างกระบวนการ NSM และต้องการได้รับประโยชน์จากนโยบายการประกันตัวตามระเบียบ NSM คุณจะต้องยกเลิกสัญญาการประกันตัวฉบับปัจจุบันและขอประกันตัวใหม่

นั่นหมายความว่า คุณจะต้องวางเงินประกันอีก 20,000 บาทเป็นค่าประกันตัวครั้งใหม่หลังจากที่ได้เข้าสู่กระบวนการ NSM แล้ว โดยคุณอาจจะต้องกลับเข้าห้องกักเมื่อสัญญาประกันตัวฉบับเก่าถูกยกเลิกไปแล้ว โดยสัญญาประกันฉบับใหม่จะต้องระบุว่าคุณอยู่ในกระบวนการ NSM อย่างไรก็ตาม ไม่มีการรับประกันว่าคุณจะไม่ถูกส่งไปที่ IDC ในระหว่างกระบวนการนี้ และยังไม่มีความชัดเจนว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลานานเท่าใด เราแนะนำให้คุณปรึกษาทนายความก่อนจะยื่นขอประกันตัว

หลังจากยกเลิกสัญญาประกันฉบับปัจจุบันแล้ว อาจใช้เวลานานถึง 3 เดือนที่จะได้รับเงินประกัน 50,000 บาทคืน ดังนั้น หากคุณไม่มีเงินค่าประกันตัว 20,000 บาทแต่ต้องการประกันตัวตามระเบียบ NSM คุณอาจต้องกลับไปที่ IDC และรอจนกว่าจะได้รับเงินประกันเดิมคืน เพื่อใช้ในการประกันตัวใหม่ภายใต้เงื่อนไขเรื่อง NSM

คุณสามารถติดต่อกองกำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอยื่นคำร้องตามกระบวนการ NSM ได้

แบบฟอร์มอยู่บนช่องทางออนไลน์ ตามลิงค์นี้

1. แบบคำร้องขอรับสิทธิเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง (คก.1)
2. แบบคำร้องอุทธรณ์ในกรณียกคำร้องว่าไม่มีสิทธิยื่นคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง (คก.3)
3. แบบคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง (คก.5)

คุณต้องให้ข้อมูลและหลักฐาน (ถ้ามี) แก่เจ้าหน้าที่เพื่อแสดงว่า ความหวาดกลัวว่าจะถูกประหัตประหารในประเทศบ้านเกิดนั้นมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ซึ่งทำให้คุณไม่สามารถเดินทางกลับประเทศของคุณได้จริง คุณสามารถใช้ แบบการพิจารณาให้สถานะเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง (คก.7) เป็นแนวทางในการเตรียมข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต้องการทราบเพื่อพิจารณาคำร้องขอของคุณ

คุณสามารถกรอกแบบฟอร์มเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก็ได้ สำหรับการสัมภาษณ์และการติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง คุณสามารถขอใช้ล่ามที่พูดภาษาของคุณได้ หากคุณไม่มีล่าม ทางกองกำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็จะจัดหาล่ามให้กับคุณ

เมื่อยื่นคำร้องได้แล้ว เจ้าหน้าที่จะออก เอกสารแสดงสถานะผู้อยู่ระหว่างคัดกรองสถานะ (คก.6) ให้คุณ

เมื่อคุณได้รับสถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” แล้ว เจ้าหน้าที่จะออกเอกสาร แบบแจ้งผลการพิจารณาให้สถานะเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง (คก.8)

ไม่ คุณไม่จำเป็นต้องมีตัวแทนทางกฎหมายเพื่อขอสถานะภายใต้ NSM หรือเพื่อให้ได้สถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” แต่หากคุณต้องการที่ปรึกษาทางกฎหมาย คุณสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้

ถ้าคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NSM คุณสามารถติดต่อ Center for Asylum Protection (CAP) หรือ Asylum Access Thailand (AAT)

ทั้งนี้ CAP อาจไม่สามารถเป็นตัวแทนทางกฎหมายให้คุณในกระบวนการ NSM ได้

สำหรับการยื่นแบบฟอร์มฉบับแรก (แบบคำร้องขอรับสิทธิเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง คก.1) เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแจ้งกับเครือข่าย CRSP ว่าคุณสามารถนำล่ามหรือคนที่ไว้วางใจมาด้วยได้ถ้าต้องการ เพื่อช่วยในการยื่นคำร้อง

คุณสามารถกรอกแบบคำร้องขอรับสิทธิเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง (คก.1) ได้ด้วยตนเอง หรือขอให้คนอื่นที่คุณไว้วางใจช่วยกรอก จากนั้นนำแบบคำร้องที่กรอกเสร็จแล้วพร้อมหลักฐานอื่น ๆ มายื่นกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

สามารถส่งแบบคำร้องขอรับสิทธิเข้ากระบวนการ NSM ได้ที่:

1. กองกำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในเวลาทำการของทางราชการ ที่ตั้งสำนักงานปัจจุบันคือที่เดียวกับสถานกักตัวคนต่างด้าวบางเขน (ห้องกักบางเขน) ซึ่งตั้งอยู่ในสโมสรตำรวจ กรุงเทพฯ
2. สถานกักตัวคนต่างด้าว (IDC) กรณีที่คุณยังถูกกักตัวอยู่

ขั้นแรก ให้ยื่น แบบคำร้องขอรับสิทธิเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง (คก.1) ก่อน หากคำร้องได้รับการอนุมัติ จึงยื่น แบบคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง (คก.5) เพิ่มเติม แบบคำร้องมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ดังนั้นควรศึกษาแบบฟอร์มไว้ล่วงหน้าก่อนเดินทางไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ภายใต้ข้อ 17 ของระเบียบคัดกรองคนต่างด้าว คุณจะได้รับแจ้งผลการพิจารณา “คำร้อง” ของคุณ และหากคำร้องขอรับสิทธิเป็นผู้ได้รับการคุ้มครองถูกปฏิเสธ คุณสามารถอุทธรณ์ผลการพิจารณาได้ภายใน 15 วันนับจากวันที่แจ้งผล หากเลยระยะเวลาอุทธรณ์ไปแล้วโดยไม่มีการยื่นอุทธรณ์ คุณจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายคนเข้าเมืองของประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าคุณอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกกักตัวเพื่อรอการส่งกลับประเทศต้นทาง หรือไม่อย่างนั้นก็จะต้องเดินทางออกนอกประเทศไทยไปโดยสมัครใจหากสามารถทำได้

ภายใต้ข้อ 18 ของระเบียบคัดกรองคนต่างด้าว หากคุณได้รับการพิจารณาว่ามีสิทธิยื่นคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง คุณจะมีเวลา 60 วันในการส่งแบบคำขอ (คก.5) นับจากวันที่ได้รับแจ้ง หากพ้นระยะเวลา 60 วันดังกล่าวโดยไม่มีการส่งแบบคำขอตามกระบวนการ จะถือว่าคุณได้ทิ้งคำร้องและจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายคนเข้าเมืองของประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าคุณอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกกักโดยไม่มีกำหนดและอาจถูกส่งกลับประเทศต้นทาง

ภายใต้ข้อ 20 ของระเบียบคัดกรองคนต่างด้าว หากคุณไม่ผ่านการพิจารณาและคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครองถูกปฏิเสธ คุณจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายคนเข้าเมือง ซึ่งหมายความว่าอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกกักโดยไม่มีกำหนดและอาจถูกส่งกลับประเทศต้นทาง

หากคุณผ่านการพิจารณา คุณจะได้รับสถานะ “ผู้ได้รับการคุ้มครอง” และจะได้รับการคุ้มครองจากการถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทางเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี เว้นแต่เคสของคุณส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

ไม่มีการเสียค่าธรรมเนียมใด ๆ ในการยื่นขอสถานะหรือการได้รับสถานะภายใต้ระเบียบฯ ฉบับนี้

กองกำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตั้งอยู่ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี-รังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 02-024-1622 หรือ 02-024-5998

หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมออนไลน์ได้ที่ https://help.unhcr.org/thailand/asylum/ และ https://nsmthailand.org/

โปรดทราบ: เว็บไซต์ nsmthailand.org ได้ยุติการใช้งานแล้ว ข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก nsmthailand.org สามารถดูได้ที่ https://capthailand.org/nsm